10 กิจกรรมแก้เบื่อคุณแม่ตั้งครรรภ์ (หากต้องลาออกมาอยู่กับบ้าน)




1. ทำหนังสือนิทานให้ลูก

ไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิทานที่ทำจากผ้านุ่ม ๆ หรือหนังสือนิทานที่ทำจากกระดาษ คุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถใช้เวลาว่างที่อยู่ในบ้านนั่งเรียงร้อยเรื่องราวออกมาเตรียมไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เช่นกัน โดยอาจเลือกทำตามความถนัด เช่น หากถนัดวาดภาพก็วาดภาพระบายสี เน้นภาพตัวโต ๆ เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน ใช้สีให้สดใส แต่ถ้าหากไม่ถนัดวาดภาพ อาจใช้การตัดเศษผ้ามาแปะ หาวัสดุอื่น ๆ มาผสมผสาน จัดวางให้มีสัมผัสที่หลากหลาย เตรียมไว้ให้เด็ก ๆ ได้เช่นกัน และเดี๋ยวนี้ก็มีเวลาประกวดมากมายที่เปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่นำผลงานที่ทำเพื่อลูกมาร่วมโชว์กันมากขึ้นด้วย ไม่แน่ว่า งานนิทานเล็ก ๆ ของคุณอาจคว้ารางวัลมานอนกอดให้ชื่นใจได้อีกนะคะ

2. นั่งเย็บกางเกงผ้าอ้อม
คุณแม่หลายท่านอาจไม่ต้องการให้ลูกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดผื่นคันบริเวณง่ามขา แต่หากซื้อผ้าสาลูธรรมดา ๆ มาใช้ก็จะวุ่นวายกับการห่อตัวเด็กเสียอีก ก็เลยมีคุณแม่ไอเดียบรรเจิดบางท่านจัดการเย็บผ้าสาลูให้กลายเป็นกางเกงผ้าอ้อมสำหรับลูกเสียเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีสินค้าลักษณะดังกล่าววางจำหน่ายอยู่เช่นกันค่ะ แต่ถ้าทำเองได้ นอกจากจะช่วยให้ครอบครัวประหยัดแล้ว ก็อาจได้พบไอเดียเด็ด ๆ หรือดีไซน์ใหม่ ๆ สำหรับลูกของเราโดยเฉพาะก็ได้ค่ะ
3. เขียนบันทึก
มีคุณแม่หลายท่านเลือกที่จะบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ของตนเองผ่านตัวหนังสือ และหลายคนก็บรรยายเอาไว้ได้กินใจมาก ๆ ซึ่งการบอกเล่านี้มีทั้งคุณแม่ที่ถนัดเขียนลงในสมุดบันทึกของตัวเอง เก็บไว้อ่านคนเดียว หรือจะเป็นคุณแม่ยุคใหม่ที่เขียนลงในโลกออนไลน์ ให้คนอื่นได้เข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ด้วยก็ถือเป็นการใช้เวลาว่างที่ดี แถมบางคนมีแฟนคลับมาก ๆ ก็ไม่แน่ว่าอาจมีสำนักพิมพ์มาติดต่อให้รวมเล่มเป็นพ็อกเก็ตบุ๊กได้เงินเป็นค่านมลูกได้อีกนะคะ
4. ทำงานประดิษฐ์
คุณแม่บางท่านอาจมีฝีมือด้านงานประดิษฐ์ ถักนิตติ้ง ถักโครเชต์ หรือคุณแม่บางคนที่มีฝีมือด้านการตัดเย็บ อาจซื้อผ้ามาตัดชุดตัวจิ๋วเตรียมไว้ให้ลูก ๆ ไม่ต้องไปซื้อหาจากห้างในราคาแพง ๆ ก็เหมาะกับยุคเศรษฐกิจพอเพียงได้เช่นกัน

5. มองหาบริการที่จำเป็นสำหรับลูกรัก

อาจกล่าวได้ว่า เทรนด์ของการทำประกันให้ลูกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่เตรียมมองหาไว้ให้เจ้าตัวเล็กค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายหลาย ๆ ตัวที่จะเกิดขึ้นกับเด็กในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หากได้มีเงินจากกรมธรรม์เข้ามาช่วยเอาไว้ ก็จะผ่อนแรงคุณพ่อคุณแม่ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์และพักอยู่บ้านก็เป็นช่วงเวลาที่สมองปลอดโปร่งพอที่จะศึกษาข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างดีทีเดียว

6. อ่านหนังสือ

ถ้าคุณแม่เป็นคนชอบการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หากได้มีเวลาหยุดพักอยู่กับบ้านช่วงตั้งครรภ์ ก็เชื่อว่าคงมีหนังสือมากมายอยู่ในมือเป็นแน่ หรือสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือจริง ๆ แต่ก็พอตั้งครรภ์ก็ต้องเริ่มหันมาสนใจต้องศึกษาหาความรู้จากพ็อกเก็ตบุ๊กต่าง ๆ นั้นก็ขอให้ทำใจยอมรับ และอ่านอย่างตั้งใจนะคะ หรือจะลองหาหนังสือธรรมะ - บทสวดมนต์ดี ๆ มาอ่านเพื่อความสงบของจิตใจร่วมด้วยก็จะยิ่งดีค่ะ

7. ท่องโลกอินเทอร์เน็ต
ข้อนี้อาจทำให้คุณแม่หลายคนติดอกติดใจมากกว่าข้ออื่น ๆ เพราะในอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลหลากหลายให้เลือกเข้าไปค้นหา แถมสารพัดเว็บไซต์ก็งัดเทคนิคให้ผู้อ่านติดหนึบมาใช้กันมากมาย บางทีจากที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจแค่ 1 - 2 ชั่วโมงอาจนั่งยาวเป็นครึ่งวันก็ได้ค่ะ ซึ่งในโลกของอินเทอร์เน็ตนั้น นอกจากจะมีข้อมูลมากมายแล้ว ยังมีชุมชนต่าง ๆ ให้เลือกเข้าไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่น ๆ ด้วย รับรองว่าไม่เหงาแน่นอนค่ะ
8. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเบา ๆ ไม่หักโหมมาก เช่น การเล่นโยคะ (ในท่าที่เหมาะสม) หรือการว่ายน้ำ ก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจค่ะ แต่ก็ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมด้วย เช่น ต้องเดินทางไกลไหม สถานที่ที่จะไปใช้บริการนั้นปลอดภัยไหม หรือสุขภาพของคุณแม่เองรับได้ไหม เพราะบางทีคุณแม่ตั้งครรภ์อาจเดินทางไปคนเดียว การหกล้ม ลื่น อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นสระว่ายน้ำในหมู่บ้าน เดินไปได้ใกล้ ๆ หรือซื้อซีดีมาบริหารร่างกายเองที่บ้านก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ทำได้อย่างสะดวกใจมากกว่าค่ะ

9. ตักบาตร-เข้าวัดทำบุญ

ความสงบของธรรมสถานช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีจิตใจที่เยือกเย็นขึ้น และสามารถใช้เวลานี้ทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ไม่หวั่นไหวง่าย ๆ ไปตามความเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ และมีสติในการดำเนินชีวิตมากขึ้นด้วย แต่ข้อนี้ก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นหลักอีกเช่นกัน เพราะไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเดินทางไปวัดได้อย่างสะดวกสบาย ถ้ามีข้อติดขัด การตื่นแต่เช้ามาทำบุญตักบาตรก็ทำให้จิตใจผ่องใสได้เช่นกันค่ะ

10. ดูแลสวน - ปลูกต้นไม้

ไม่ต้องถึงกับขุดดินปลูกต้นกล้วยนะคะ หากมีสวนอยู่แล้ว การออกไปรดน้ำต้นไม้ สูดอากาศตอนเช้า ก็ทำให้จิตใจดีขึ้นได้ไม่ยาก หรือหากยังไม่มีสวน ก็อาจลองหาไม้กระถางเขียว ๆ มาวางตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน ก็จะช่วยให้บ้านที่คุณแม่ต้องอยู่ทั้งวันนั้นดูสดชื่นมากขึ้นค่ะ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนตั้งครรภ์ก็คือ การคิดในแง่ลบค่ะ หากตัวเราเองไม่ใช่คนที่คิดลบ ก็ควรระวังความคิดในเชิงลบของคนอื่นที่พร้อมจะพุ่งเข้ามาใส่ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่ไม่น่าฟัง คำติฉินนินทา หรือเรื่องราวไม่ดี ๆ ถ้าอยู่ห่างได้ จิตใจก็จะปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้นอีกมากค่ะ ทีมงานก็ขอให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่าน เลือกทางที่เหมาะสม และทำจิตใจให้สบายนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Health.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น

กินวิตามินซี (เม็ด) ดีมั้ย ?