บทความ

10 แนวทางช่วยคุณแม่ให้นม 365 วัน

รูปภาพ
แม้ว่านมแม่จะมีความสำคัญกับลูกมากน้อยแค่ไหน แต่ลูกทุกคนก็ไม่ได้กินนมแม่ไปตลอด บางคนอาจจะกินได้เพียง 5 เดือน 6 เดือน หรือน้อยกว่านั้น ขณะที่บางคนอาจจะกินไปจนถึงขวบปีแรก ซึ่งเหตุผลที่คุณแม่จำนวนมากมีระยะเวลาที่ต่างกันในเรื่องของการให้นมลูกนั้นเป็นเพราะว่าความแตกต่างทางด้านหน้าที่การงาน สังคม และคนในครอบครัว เช่นแม่ส่วนหนึ่งสามารถลางานได้เพียงสามเดือนก็ต้องกลับมาทำงานตามปกติ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งอาจลาออกมาเลี้ยงลูก เป็นแม่บ้านเต็มตัวก็มีอยู่ไม่น้อย ทั้งนี้ คริสทีน ฟอสเตอร์ นักเขียนชาวอเมริกันเผยว่า การที่เด็กได้กินนมแม่นั้นจะแตกต่างจากเด็กที่กินนมขวดเป็นอย่างมาก ดังนั้นคริสทีนจึงเสนอเคล็ดลับดีๆที่จะทำให้คุณแม่สามารถให้นมลูกได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ซึ่งทางที่ดีคือควรให้นมลูกจนลูกมีอายุครบ 1 ขวบ และ10 วิธี ที่แม่จะสามารถให้นมลูกถึง 365 วันนั้น มีดังนี้ 1. ขอความช่วยเหลือ www.wellsphere.com ถึงแม้คุณแม่ส่วนใหญ่จะเริ่มให้ลูกกินนมแม่จากอกแม่หลังคลอด แต่คุณแม่มักจะไม่เคยมีประสบการณ์ตรงในการให้นมลูกมาก่อน ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงที่คุณแม่มือใหม่ต้องเผชิญหลังคลอดบุตรเป

10 กิจกรรมแก้เบื่อคุณแม่ตั้งครรรภ์ (หากต้องลาออกมาอยู่กับบ้าน)

รูปภาพ
1. ทำหนังสือนิทานให้ลูก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิทานที่ทำจากผ้านุ่ม ๆ หรือหนังสือนิทานที่ทำจากกระดาษ คุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถใช้เวลาว่างที่อยู่ในบ้านนั่งเรียงร้อยเรื่องราวออกมาเตรียมไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เช่นกัน โดยอาจเลือกทำตามความถนัด เช่น หากถนัดวาดภาพก็วาดภาพระบายสี เน้นภาพตัวโต ๆ เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน ใช้สีให้สดใส แต่ถ้าหากไม่ถนัดวาดภาพ อาจใช้การตัดเศษผ้ามาแปะ หาวัสดุอื่น ๆ มาผสมผสาน จัดวางให้มีสัมผัสที่หลากหลาย เตรียมไว้ให้เด็ก ๆ ได้เช่นกัน และเดี๋ยวนี้ก็มีเวลาประกวดมากมายที่เปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่นำผลงานที่ทำเพื่อลูกมาร่วมโชว์กันมากขึ้นด้วย ไม่แน่ว่า งานนิทานเล็ก ๆ ของคุณอาจคว้ารางวัลมานอนกอดให้ชื่นใจได้อีกนะคะ 2. นั่งเย็บกางเกงผ้าอ้อม คุณแม่หลายท่านอาจไม่ต้องการให้ลูกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดผื่นคันบริเวณง่ามขา แต่หากซื้อผ้าสาลูธรรมดา ๆ มาใช้ก็จะวุ่นวายกับการห่อตัวเด็กเสียอีก ก็เลยมีคุณแม่ไอเดียบรรเจิดบางท่านจัดการเย็บผ้าสาลูให้กลายเป็นกางเกงผ้าอ้อมสำหรับลูกเสียเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีสินค้าลักษณะดังกล่าววางจำหน่ายอยู่เช่นกันค่ะ แต่ถ้าทำเองได้ นอกจากจะช่วยให

"ไส้ติ่ง" มีไว้ทำอะไร

รูปภาพ
ไส้ติ่ง คือส่วนของลำไส้ใหญ่ที่ยื่นออกมาเป็นติ่งอยู่ตรงบริเวณด้านขวาล่าง มีขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร มีรูติดต่อกับลำไส้ใหญ่ แต่เดิมนั้นเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าไส้ติ่งทำหน้าที่อะไร มีประโยชน์หรือไม่ หลายคนคิดว่าไส้ติ่งเป็นส่วนเกินของร่างกาย เมื่อมีเหตุให้ต้องผ่าตัดช่องท้อง จึงผ่าไส้ติ่งทิ้งไปด้วย เพราะเกรงว่าไส้ติ่งจะสร้างปัญหาหากกลายเป็นไส้ติ่งอักเสบขึ้นมา แต่แท้ที่จริงแล้ว ไส้ติ่งนั้นมีประโยชน์ค่ะ ไส้ติ่งมีไว้ทำอะไร นักวิทยาศาสตร์อเมริกันจากมหาวิทยาลัย Duke ค้นพบว่าไส้ติ่งมีหน้าที่สร้างและปกป้องเชื้อจุลินทรีย์ในช่องท้องของคนเรา จุลินทรีย์ที่ว่านี้ช่วยในระบบการย่อยอาหาร นอกจากนี้ไส้ติ่งยังทำหน้าที่กระตุ้นระบบย่อยอาหารให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ถูกเชื้อโรคอหิวาต์หรือเชื้อโรคบิดเล่นงาน ศาสตราจารย์ Bill Parker แห่งมหาวิทยาลัย Duke อธิบายว่าไส้ติ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนที่หลบภัยและโรงงานผลิตแบคทีเรียที่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของไส้ติ่งจะลดน้อยลงมากในประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากมีโอกาสเกิดโรคอหิวาต์หรือโรคบิดน้อยมาก แต่สำหรับในประเทศด้อยพั

ดื่มน้ำให้ถูกวิธี

รูปภาพ
หนึ่งในพฤติกรรมที่ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ทำผิดมากที่สุดคือ เรื่องของการดื่มน้ำนี่แหละครับ ลองทำแบบทดสอบกันสักนิดก่อนอ่านต่อดีไหมครับ 1. คุณมีความเชื่อที่ว่าน้ำยิ่งดื่มเยอะยิ่งดีหรือไม่ 2. คุณดื่มน้ำวันละกี่แก้ว 3. น้ำที่ดื่มเป็นน้ำเย็น , น้ำธรรมดา หรือว่าน้ำอุ่น 4. ดื่มน้ำช่วงเวลาไหนเป็นพิเศษไหม เช่น ดื่มตอนเช้า ดื่มระหว่างทานข้าว ดื่มก่อนนอน เป็นต้น 5. ปกติดื่มอะไร เช่น น้ำเปล่า น้ำอัดลม ชา กาแฟ เป็นต้น เราเฉลยกันไปทีละข้อๆพร้อมอธิบายละกันครับ พร้อมที่จะรู้ความผิดของ ตัวเองหรือยังครับ ข้อหนึ่ง นั้น เป็นความเชื่อที่ผิดครับ ทุกอย่างต่างมีทั้งคุณและโทษ ต้องหาจุดสมดุลของมันครับ น้ำดื่มมากเกินไปกลับไม่ดีเสียอีกครับ เดี๋ยวผมจะมีสูตรให้คำนวณว่าวันหนึ่งเพื่อนๆควรดื่มน้ำแค่ไหน ข้อสอง คิดว่าทุกคนคงเคยเรียนกันมาอยู่แล้วว่าคนเราวันหนึ่งควรทานน้ำวันละ 8-10 แก้ว ว่าแต่ ทำได้อย่างที่เรียนมาหรือเปล่าครับ ผมจะอธิบายให้ฟังว่า น้ำในร่างกายของเรามีที่มาที่ไปอย่างไรก่อน น้ำที่เข้าสู่ร่างกายเรามาจากน้ำและอาหารที่ทานเข้าไปเป็นหลัก ส่วนน้ำจะออกจากร่างกายทางปัสสาวะ อุจจาระ เหงื่อ และทางลมหา

10 วิธีหลีกหนีริ้วรอยของผู้หญิง

รูปภาพ
ริ้วรอย เป็นสิ่งที่หลายคนไม่ปรารถณา ไม่ว่าท่านจะอายุซักเท่าไหร่ ทุกคนอาจจะหยุดเวลาไว้ ณ วัยอันเปล่งปลั่งสดใส แต่คงไม่มีใครหยุดยั้ง เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน แต่ละนาทีได้ บทความนี้จะนำเสนอแนวทางเคล็ดลับง่ายๆ 10 วิธีที่ท่านจะหลีกเลี่ยงภาวะชราตามวัย หรือเกินวัย ด้วยตัวท่านเอง ดังนี้ 1. ปกป้องผิวจากแสงแดด : ได้มีการพิสูจน์ยืนยันกันหลายต่อหลายครั้งในรายงานทางการแพทย์ว่า รังสียูวีเอ ยูวีบี และรังสีอินฟราเรด เป้นตัวการ สำคัญมากที่ทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัย ดังนั้นการเลี่ยงการโดนแดด หรือทาครีมกันแดดทุกวัน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะป้องกัน อาการไหม้เกรียมแดด ริ้วรอยแล้ว ยังป้องกันมะเร็งผิวหนังในอนาคตด้วย 2. หยุดสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถหล่อเลี้ยงผิวพรรณได้เต็มที่และเพียงพอ ทำให้เซลล์ผิวหนังไม่สดใส และส่งผลให้เกิดเซลล์ ใหม่ล่าช้า และยังเร่งให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าให้เร็วขึ้น และเกิดรอยย่นเล็กๆ ที่บริเวณริมฝีปาก และปากดำคล้ำไม่สวยงาม 3. การทำความสะอาด: หลังจากเสร็จภารกิจจากการงาน ควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด ปราศจากคราบเครื่องสำอาง สิ่งสกปรกหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ด้วยคร

บริหารดวงตาด้วยโยคะ

รูปภาพ
ถอดแว่นหรือคอนแทคเลนส์ออกเสียก่อน จากนั้นเอาฝ่ามือทั้งสองข้างถูกันไปมาอย่างเร็วจนรู้สึกร้อน แล้วให้หลับตาแล้วนำเอาฝ่ามือทั้งสองข้างมานาบกับกับหนังตานานประมาณ 1 นาที ให้รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านซึมเข้าไปสู่ดวงตาของเรา และให้ผ่อนคลายความเคร่งเครียดทั้งมวลลงพร้อมทั้งหายใจลึกๆ จากนั้นเอามือออก ลืมตาขึ้น แล้วเคลื่อนลูกตาจากซ้ายไปขวา โดยมองไปยังทีไกลๆ จากมุมซ้ายสุดแล้วกวาดสายตาไปยังมุมขวาสุด ทำซ้ำๆกัน 4 ครั้ง เสร็จแล้วหลับตา ถูมือให้ร้อนแล้วเอานาบกับหนังตาอีก พร้อมทั้งผ่อนคลายความเคร่งเครียดลงให้หมด หายใจลึกๆไว้ ต่อจากนั้นให้เคลื่อนสายตาจากมุมขวาบนไปยังมุมซ้ายล่างเป็นเส้นทแยงมุม 4 ครั้งเสร็จแล้วพักโดยหลับตา นาบฝ่ามือที่ถูกันจนร้อนแล้วลงที่หนังตา ดังเช่นตอนต้น ขั้นต่อไปให้กวาดสายตาเป็นวง (เหมือนเอาสายตาจ้องดูเส้นวงกลมวงใหญ่ที่มีคนเขียนขึ้นข้างหน้าของเรา) ให้เคลื่อนสายตาตามทิศทางเคลื่อนตัวของเข้มนาฬิกา 4 รอบ แล้วพักโดยการนาบฝ่ามือที่ถูกันจนร้อนแล้วลงที่หนังตา ขั้นตอนสุดท้าย เคลื่อนลูกตาจากบนสุดลงมายังจุดล่างสุดโดยมองไปยังจุดไกลๆที่สุดด้านบน แล้วกวาดสายตาลงมายังจุดด้านล่างอย่างช้าๆ ทำ 4 ครั้ง

อันตรายจากเครื่องสำอางค์

รูปภาพ
ปัจจุบันนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่เป็นไปอย่างรวดเร็ว วิวัฒนาการด้านความงามก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวัฒนาการทางด้านเครื่องสำอาง ร้านเสริมสวย สถาบันเสริมความงาม การใช้แสงเลเซอร์ ช่วยในการรักษาผิว ทั้งหมดที่ถ้าใช้อย่างถูกวิธี ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งก็ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนได้ ควรศึกษาให้พอเข้าใจบ้าง เพื่อประโยชน์แต่ตนเองและคนรอบข้าง ' เครื่องสำอาง' ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2525 หมายความว่า วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด พ่น หยอด ใส่ อบ หรือการกระทำด้วยวิธีอื่นใส แต่ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เพื่อทำความสะอาด ความสวยงาม หรือ ส่งเสริมให้เกิดความสวยงาม ตลอดจนเครื่องประทินโฉมต่างๆ ดังนั้นทุกคน ทุกเพศวัย จึงต้องใช้เครื่องสำอางทั้งนั้น เพราะรวมถึง สบู่ ยาสีฟัน และแชมพูทำความสะอาดร่างกายด้วย จากสถิติในต่างประเทศ มีการสำรวจการใช้เครื่องสำอาง พบว่า มีผลข้างเคียงในการใช้เครื่องสำอาง 680 ครั้ง ต่อการใช้ 1,000,000. ครั้ง และในคลินิกภูมิแพ้ พบคนไข้มีการแพ้จากเครื่องสำอาง ประมาณ 10 % สาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายจากการแพ้เครื่องสำอาง อาจจะเกิดจาก 1. ความเข้มข้นของสารที่มากเก